โนราโรงครู คณะสองพี่น้อง ศิลป์บ้านตรัง อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี
Nora Rong Khru Rite of Song Pinong Silapa Ban Trang Troupe, Mayo District, Pattani Province
View/ Open
Date
2020Author
Tawatchai Saisri | ธวัชชัย ซ้ายศรี
Phakamas Jirajarupat | ผกามาศ จิรจารุภัทร
Metadata
Show full item recordAbstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความเป็นมา องค์ประกอบ รูปแบบการแสดงโนราโรงครูคณะสองพี่น้อง ศิลป์บ้านตรัง อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี 2) ศึกษาเอกลักษณ์ของการแสดงโนราโรงครูคณะสองพี่น้องศิลป์บ้านตรัง อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี โดยศึกษาจากเอกสาร การเก็บข้อมูลภาคสนามจากการสังเกตการณ์การสัมภาษณ์ และการฝึกปฏิบัติเพื่อรับการถ่ายทอดกระบวนท่ารำจากนางพริ้ม แก้วทอง
ผลการวิจัยพบว่า การแสดงโนราโรงครูเป็นคณะเดียวที่มีนายโรงโนราเป็นผู้หญิงมีการสืบทอดมาแล้ว29 ปี ถึงแม้ว่าระยะเวลาที่ใช้ในการสืบทอดของคณะไม่มากนักแต่การแสดงโนราโรงครูคณะนี้มีการสืบทอดจากคณะโนราอินแก้วซึ่งเป็นสายตระกูลโนราชายที่มีต้นกำเนิดมาจากคณะโนราสามทอง ช่วงยุคของปลายรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2352 เป็นระยะเวลา 200 กว่าปี องค์ประกอบที่สำคัญ คือ ใช้ผู้แสดง 8 คน ได้แก่ นายโรงโนราผู้หญิง 2 คน นักแสดง 1 คน ลูกคู่ 5 คน การแต่งกายมี 3 แบบ ได้แก่ 1) แบบเครื่องสาย 2) แบบเครื่องเบาะ 3) แบบตัวตลกใช้วงดนตรีพื้นบ้านโนราบรรเลงประกอบการแสดง มีบทร้อง 43 บท แบ่งเป็น 31 กำพลัด 12 บท 20 ทำนองเพลง ลักษณะของท่ารำจะปฏิบัติท่ารำนั่งเรียบพื้นและท่ายืนรำด้วยจังหวะช้าจนถึงปานกลาง อุปกรณ์ที่ใช้ ได้แก่ กริชตะเกียงชวาลา แปะ แชงหรือกระแชง บายศรีพลู ดอกมะพร้าว และสาดคล้า (เสื่อ) รูปแบบการแสดงจัดแสดงเฉพาะแบบพิธีกรรมโดยจัดแสดงในช่วงเดือน 6 เดือน 7 และเดือน 9 เอกลักษณ์ที่ปรากฏของการแสดงโนราโรงครูเป็นการแสดงที่ผสมผสานระหว่างโนราโรงครู โนราแขก และมะโย่ง จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคณะ นอกจากนี้การแสดงโนราโรงครูยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทหน้าที่ของโนราผู้หญิงในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ สร้างความรักและการปรับตัวเข้าหากันของวัฒนธรรมในสังคมที่ผสมผสานพหุวัฒนธรรมของชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมได้อย่างลงตัว