ผู้สูงอายุกับการเลือกลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินในยุคดิจิทัล

Abstract

รายงานวิจัยเรื่องผู้สูงอายุกับการเลือกลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินในยุคดิจิทัล มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมทางการเงินและรูปแบบการลงทุนของผู้สูงอายุ และ 2) ปัญหาอุปสรรคในการ ลงทุนและปัจจัยที่เลือกลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินของผู้สูงอายุ โดยมีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน ซึ่งผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) สัญชาติไทย อาศัยอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสงขลา เครื่องมือวิจัยที่ใช้เป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้สำหรับงานวิจัย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณ และวิธีการสกัดปัจจัยแบบการ วิเคราะห์องค์ประกอบหลัก (Principle Component Analysis). ผลการวิจัย พบว่า 1) กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่มีรายได้หลักจากการทำงานด้วยตัวเอง ร้อยละ 32.75 จำนวนเงินที่ลงทุนเฉลี่ยเท่ากับ 5,842.25 บาทต่อเดือน โดยเลือกลงทุนแบบการฝากเงินและออมเงินในรูปแบบต่าง ๆ กับธนาคาร ร้อยละ 53.14 เลือกลงทุนเพราะปัจจัยความปลอดภัยของเงินลงทุน ร้อยละ 21.25 และบริหารพอร์ต การลงทุนเป็นแบบลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง ร้อยละ 24.00 2) ภาพรวม ของระดับการปฏิบัติตามพฤติกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้น อยู่ในระดับมาก ( X =3.48) โดยส่วนใหญ่เคย ประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ ( X =4.01) 3) ภาพรวมระดับความสำคัญของปัญหาอุปสรรคในการเลือก ลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อยู่ในระดับมาก ( X =3.86) โดยส่วนใหญ่มีปัญหามาจากด้านความพร้อม ในการลงทุนของตัวบุคคล ( X =4.23) และปัญหาวินัยการออมเงินและพฤติกรรมการลงทุน ( X =4.02) 4) ภาพรวมระดับความสำคัญของปัจจัยที่เลือกลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อยู่ในระดับ มาก ( X =3.96) ได้แก่ ปัจจัยด้านอายุและสุขภาพของผู้ลงทุน ( X =4.35) เป้าหมายหลักและ วัตถุประสงค์ในการลงทุน ( X =4.27) และ 5) ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ระดับการปฏิบัติตัว จากพฤติกรรมทางการเงินและอายุของกลุ่มตัวอย่าง มีอิทธิพลเชิงบวกต่อระดับความสำคัญของ ปัญหาอุปสรรคในการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (R=0.469) และสามารถจัดองค์ประกอบปัจจัยร่วมที่ส่งผลต่อการเลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ได้ทั้งหมด 6 ปัจจัย อธิบายความผันแปรของตัวแปรได้ร้อยละ 69.18